ค่าที่มีเหมือนกันหมดไว้ว่าจะเป็นกล้องรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร Nikon, Canon, Fuji, Sony, ฯลฯ ประเภทอะไร ไม่ว่าจะเป็น กล้องเล็ก(Compact ต่อไปนี้จะเรียกชื่อนี้นะคับ) กล้องใหญ่(DSLR ต่อไปก็จะเรียกชื่อนี้เช่นกันครับ)ได้แก่ ISO, f, Shutter Speed
ISO หรือจะได้ยินเขาเรียกกันว่า "ไอโซ่"
มันคือค่าความไวต่อแสงนั้นเอง
- แล้วมันคือความไวแสงหรือความไวต่อแสง ของอะไรหละ?
ก็ความไวต่อแสงของฟิลม์ หรือ CCD นั้นและ
- แล้วเอ๊ะ CCD คืออะไรเหรอ?
ถ้าพูดกันภาษาชาวบ้านให้เข้าใจไม่เน้นหลักการหละก็ มันก็คือ ฟิลม์ ในยุคดิจิตอลนี่และ เป็นส่วนที่ทำให้เกิดภาพขึ้นนั้นเอง แต่ถ้าอยากรู้ลึกๆเด๋วเราค่อยมาคุยกันอีกที ตอนนี้เอาให้ปฏิบัติเป็นก่อนดีกว่า 555
-ถามว่าแล้ว ISO นี่มีผลต่อภาพถ่ายของเรายังไงบ้าง?
คำตอบก็คือ เอาตามประสาชาวบ้านก็คือ ถ้า ISO มาก ก็จะทำให้ภาพสว่างขึ้น แต่ภาพของเราก็จะมี Noise มากขึ้น ถ้า ISO น้อย ภาพที่ได้จะคมชัดปราศจาก Noise นั้นเอง ความสว่างของภาพอาจจะน้อยลงตามไป
- เอ๊ะ! แล้ว Noise คือไรอ่ะ
มันก็คือ จุดสีที่ผิดพลาดบนภาพถ่ายของเรายังไง มันเกิดจากสัญญาณรบกวนเนื่องจากการใช้ ISO สูงๆของเรานั้นเอง
-สรุป ISO คือความความไวต่อแสง ยิ่งค่ามาก ความสว่างของภาพที่ได้จะเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีจุดสี แปลกๆในภาพของเรามากขึ้น จะใช้แค่ไหนดูความจำเป็นเอานะคับ
ตัวต่อมา ค่า f หรือ f-stop อ่านว่า เอฟ-สตอป ไม่ใช้สต๊อปนะ ออกเสียงต่ำๆ สะ-ตอป
มันคือค่ากำลังของแสง(ผมขอเรียกอย่างงี้นะ) พูดไปมันจะยาว เอาเป็นว่าเข้าใจว่าตัวเลขนี้ในกล้องของเรามันหมายถึง ความกว้างของรูรับแสงที่จะปลอดให้แสงเข้ามากระทบ CCD ในกล้องเราได้มากหรือน้อย เปิดกว้างแสงเข้ามากภาพสว่าง เปิดน้อยแสงเข้าน้อยภาพมืด
-แล้วค่าไหนหละที่มากค่าไหนละที่น้อย?
ค่า f จะเรียงกันดังนี้ครับ 1 , 1.4 , 2 , 2.8 , 4 , 5.6 , 8 , 11 , 16 , 22 , 32 , 45 , 64 ในกล้องบ้างรุ่นหรือบางโหมดอาจจะมีตัวเลขที่ละเอียดกว่านี้นะครับ ของไม่พูดถึงก็แล้วกัน ยิ่งตัวเลขมากรูรับแสงยิ่งแคบ จำแค่นี้นะ เลขมากแสงน้อย เลขน้อยแสงเยอะ แต่เลขแต่ละตัวเขาจะเรียกกันว่าง 1 stop อย่างเช่น 4 กับ 5.6 นี้ ห่างกันอยู่ 1 stop และ 8 กับ 16 ห่างกันอยู่ 2 stop ที่นี้เวลาได้ยินใครเขาคุยกันว่า สตอปๆ คงเขาใจขึ้นนะครับว่าหมายถึงอะไร
มาถึงค่าสุดท้าย Shutter Speed ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะคับว่า ความเร็วชัดเตอร์ ซึ่งจะมีหน่วยเป็นวินาทีคับอย่างที่เราเห็นในกล้อง เช่น 1/200 นั้นหมายความว่า ม่านชัตเตอร์จะเปิดและปิดในเวลา 1/200 วินาที หากว่าตัวเลขนั้นเป็น 1 หรือ 1" หมายความว่า ม่านชัตเตอร์จะเปิดและปิดในเวลา 1 วินาที ซึ่งก็เป็นเวลาที่นานพอสมควร
-ถามว่าแล้วผลของความเร็วชัตเตอร์นั้นมีไว้ทำอะไร?
ตอบนะคับ ถ้าเราใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่สูง เช่น 1/250 ผลที่ได้คือ หากเป็นที่แสงน้อยภาพจะมืดครับ แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องแสง เราเอาไปถ่ายภาพที่เป็นการเคลื่อนไหวอย่างเช่น กีฬา ภาพนั้นจะดูเหมือนหยุดนิ่ง
ถ้าเราใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ต่ำเช่น 1/5 ผลที่ได้คือภาพจะดูสว่างขึ้นครับ แต่ถ้ามือเราไม่นิ่งพอ ภาพจะสั่นไหวแน่นอนครับ ถ้าเราลองเอาไปถ่ายรถที่วิ่งบนท้องถนนยามค่ำคืนหละก็ สิ่งที่ได้ก็จะเป็นแสงไปที่วิ่งยาวเป็นเส้น ตัวอย่างง่ายๆนะครับ คงพอจะเอาไปต่อยอดความคิดได้ว่าเอาไปใช้ทำอะไร
จริงๆแล้ว ถ้าเราใช้กล้องในระบบออโต้ หรือโหมดการถ่ายภาพต่าง เรื่องพวกนี้เราแทบจะไม่ต้องสนใจเลย ยกเว้นพวกโหมดที่เป็นตัวหนังสือในกล้อง DSLR และโหมด M(manual) เพราะว่า กล้องจะทำการคำนวณค่าต่างๆ และปรับให้เราเรียบร้อยแล้ว จึงถ่ายได้โดยไม่ต้องสนใจอะไร แต่ถ้าเป็นระบบ Manual แล้วหละก็นี่คือสิ่งที่จะเป็น ในการทำให้ได้ภาพตามที่เราต้องการเลยครับ
ค่าทั้ง 3 ตัวนี้มีความสัมพันธ์กันอยู่ เช่น ถ้าเราใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/50 แล้วภาพก็ยังไม่สว่าง แต่ปรับให้ช้ากว่านี้ไม่ได้แล้วมือสั่น ก็ให้ปรับ ISO หรือ f แทน ถ้ายังไม้ได้ก็อาจจะปรับอีกค่าที่เหลือ ลองไปเล่นดูนะครับ ใครว่ากล้อง Compact ถ่ายสวยไม่ได้ลองเล่นโหมด Manual ดูสิครับ ปรับ 3 ค่าแค่นี้ รับรองคุณจะได้ภาพสวยๆ ดั่งใจแน่
ปล. เนื้อหาในบทความนี้ไม่ได้เป็นเชิงวิชาการนะครับ เน้นให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย เอาไปใช้จริงได้ซะมากกว่า จุดมุ่งหมายจริงๆ
- ให้รู้ว่าแต่ละค่าหมายถึงอะไร เวลาได้ยินใครพูดถึง ก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อออกมา
- ให้รู้ว่าค่าแต่ละตัวปรับแล้วมีผลยังไง จะใช้งานยังไงได้บ้าง
- สุดท้ายขาดไม่ได้ อยากไปลองเล่นกันดู สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะมีกล้อง หรือคนที่มี Compact อยู่แล้วแต่ไม่เคยลองถ่ายแบบ Manual เลย จะได้สนุกกับการถ่ายภาพ มากขึ้น ^_^
ขอบคุณมากๆครับผม จุบุ
ตอบลบขอบคุณคับ อ่านสอบอีกสอวันแฮ่ๆ
ตอบลบเนื้อหาดีครับ
ตอบลบ